
การออกบ้านหน้าสดแล้วผิวสวยสดใสแบบไม่ต้องลงรองพื้นหน้าๆไว้ปกปิดร่อยรอยต่างๆให้หนักหน้า คงจะดีไม่ใช่น้อยสำหรับสาวๆแต่ตัดกลับมาที่มลพิษสิ่งแวดล้อม ความเครียด และ แสงแดด ที่จ้องทำร้ายผิวหน้าให้หมองคล้ำ เกิดสิว และรอยดำต่างๆบนใบหน้าแล้วเพียงแค่การทาครีมบำรุงอย่างเดียว หน้าใสคงอยู่ไกลเกินเอื้อม แต่การทำเลเซอร์หน้าใส สามารถช่วยให้ความฝันนี้เป็นจริงได้ไม่ยากเลยค่ะซิส
ทำไมต้องเลเซอร์หน้าใส
ในด้านจุดเด่นและคุณสมบัติของการ เลเซอร์หน้าใส จะทำให้มีผิวหนังที่ดูขาวกระจ่างใสมีออร่าผิวดูเรียบเนียนหมดปัญหาผิวหมองคล้ำ รอยดำรอยแดงดูจางลงอละยังช่วยให้ริ้วรอยดูลดลงโดยดีกว่าการทาสกินแคร์หรือการทำทรีตเม้นท์ช่วยปลุกผิวให้กลับมาขาวกระจ่างใสอีกครั้งแลดูมีสุขภาพดีมีสีผิวที่สม่ำเสมอทั่วบริเวณใบหน้าจนคนรอบข้างสามารถ สังเกตุเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง
เลเซอร์หน้าใส แก้ปัญหาอะไร?
เลเซอร์หน้าใส คือ นวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ใช้เครื่องเลเซอร์มาดูแลรักษาผิวหน้า ที่จะคอยช่วยแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการรักษาปัญหาริ้วรอยตื้นๆ ปัญหาเรื่องสิว สีผิวไม่สม่ำเสมอ รอยดำและรอยแดงต่างๆ บนใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูสดใส เรียบเนียน มีออร่า มากขึ้น
การทำเลเซอร์หน้าใส มีอะไรบ้าง?
1. Dual yellow Laser
มีเทคโนโลยีการผสมผสานเลเซอร์ 2 ชนิดเข้าไว้ด้วยกันเพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาผิวหน้าได้ดีมากยิ่งขึ้น ชนิดแรก เป็นเลเซอร์สีเหลือง ความยาวคลื่น 578 nm. ชนิดที่ 2 เป็นเลเซอร์สีเขียว ความยาวคลื่น 511 nm. นิยมใช้ในคลินิกชั้นนำและโรงพยาบาลโรคผิวหนังชั้นนำ
ข้อดีและข้อเสียของ Dual yellow Laser
- ข้อดี : เป็นเลเซอร์ที่มีผลต่อ เส้นเลือดฝอยเล็กๆ ลดการอักเสบของสิว ทำให้รอยแดงจางลง ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลาเจนใต้ผิวหนังทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น อีกทั้งยังมีความอ่อนโยนไม่ทำร้ายผิวด้านบน และไม่เกิดรอยช้ำหลังการรักษาเหมือนเลเซอร์แบบเก่า ที่ช่วยทำให้สีผิวขาวสม่ำเสมอขึ้น และไม่ทำให้รู้สึกเจ็บขณะทำ เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
- ข้อเสีย : ไม่สามารถรักษาคนที่เป็นฝ้า กระที่ฝังลึกได้ และไม่สามาถทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนไร้สิวได้ภายในครั้งเดียว แต่จะค่อยๆ ดีขึ้นหลังการทำเลเซอร์ทุกครั้ง อาจต้องทำหลายครั้งเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
2. Lutronic Spectra Laser
นวัตกรรมเลเซอร์ ที่เม็ดสีแบบ 2 ช่วงความยาวคลื่น คือ 532 nm และ 1064 nm นิยมใช้ในคลินิกทั่วไป
ข้อดีและข้อเสียของ Lutronic Spectra Laser
- ข้อดี : เหมาะกับการรักษความผิดปกติของเม็ดสีผิว เช่น ฝ้า กระ สีผิวไม่สม่ำเสมอ และ จุดด่างดำบนใบหน้าเป็นอย่างดี
- ข้อเสีย : ไม่ค่อยเห็นผลในการช่วยรักษาสิว และหลุมสิว ต้องทำการรักษาหลายครั้งจึงเห็นผลลัพที่ชัดเจน
3. Vbeam Laser
ใช้เทคโนโลยี Micropulse PDL นการช่วยให้รักษาผิวหน้า เป็นเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 595 nm ที่ช่วยรักษาผิวเช่น หน้าแดงจากแดดและหน้าคล้ำให้กลับมาใส ซึ่งเป็นแสงเลเซอร์ที่นิยมใช้ในคลินิกทั่วไป
ข้อดีและข้อเสียของ Vbeam Laser
- ข้อดี : เทคโนโลยีเลเซอร์ที่มีความอ่อนโยนต่อผิว โดยจะมีระบบพ่นความเย็น ที่ให้ความละเอียดสูง ที่ผสานไป กับลำแสงเลเซอร์จึงทำให้ไม่รู้สึกเจ็บ ช่วยรักษารอยแดง รอยสิว ริ้วรอย กระ รอยดำต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
- ข้อเสีย : อาจมีแผลตกสะเก็ดหลังการรักษา เมื่อเทียบกับ Dual yellow Laser เลเซอร์ อาจจะต้องใช้จำนวนครั้งที่มากกว่า
4. IPL Laser
คือการใช้ลำแสงเลเซอร์ที่มีความเข้มข้นสูง และความยาวคลื่นตั้งแต่ 515-1200 นาโนเมตร
ข้อดีและข้อเสียของ IPL Laser
- ข้อดี : ช่วยลดริ้วร้อย รอยแดงจากสิว กระชับขุมขนและหลุมสิว ได้ดี
- ข้อเสีย : ให้ความเกิดรู้สึกเจ็บในขณะทำเลเซอร์ ไม่เหมาะกับคนที่มีสีผิวคล้ำเพราะอาจจะทำให้เกิดรอยไหม้บนผิวหนังได้ เมื่อเครื่องเลเซอร์ทำงานจะมีการสะสมความร้อน อาจมีผลข้างเคียงกับผิวหน้า และจำเป็นต้องใช้จำนวนครั้งในการรักษาที่มากกว่าการทำเลเซอร์หลายครั้ง
ใครบ้างที่เหมาะกับการทำเลเซอร์หน้าใส?
- คนที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง
- คนนี้ที่ต้องการมีใบหน้าขาวใสและเรียบเนียน
- คนที่มีปัญหาสีผิวบริเวณใบหน้าที่ไม่สม่ำเสมอ
- คนที่มีผิวหน้าหมองคล้ำดูไม่สดใส
- คนที่ต้องการจบปัญหาเรื่องสิว
- คนที่ต้องการลดเส้นเลือดฝอยบนใบหน้า
- คนที่ต้องการกระชับรูขุมขนให้ดูเล็กลง
- คนที่มีรอยดำรอยแดงและจุดด่างดำ
- คนที่มีสภาพผิวขาดการบำรุงอย่างต่อเนื่อง
วิธีดูแลผิวหน้าให้ใส ควบคู่กับการทำเลเซอร์
นอกจากการทำเลเซอร์แล้วเราจะมีวิธีอย่างไรบ้างที่เป็นการช่วยดูแลผิวหน้าของเราควบคู่กันไป อีกทั้งยังสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการทำเลเซอร์ให้เห็นผลชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยมีข้อแนะนำดังนี้
- ควรล้างหน้าให้สะอาดทุกเช้า เย็น และก่อนนอน
- ต้องเช็คเครื่องสำอางออกก่อนล้างหน้าทุกครั้ง
- เลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะสมกับสภาพผิว
- ควรเลือกสูตรโฟมล้างหน้าที่อ่อนโยนและเหมาะกับสภาพผิว ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น
- ไม่ควรเช็ดหรือถูผิวหน้าอย่างรุนแรง
- ควรสครับผิวหน้าบ้างสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
- ทาครีมกันแดดทุกวันโดยเฉพาะช่วงกลางวัน
- หยุดพักแต่งหน้าบ้าง
- ควรมาร์กบำรุงผิวหน้าอย่างน้อยเดือนละ 5-8 ครั้ง
- ทำเลเซอร์เพื่อช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนังและฟื้นฟูให้ผิวหน้ากลับมาแข็งแรง เรียบเนียน ไร้สิว อีกครั้ง
ข้อดีและข้อเสียของการทำเลเซอร์หน้าใส
ข้อดีของการเลเซอร์หน้าใส
- ผิวดูกระจ่างใส
- ช่วยกำจัดขนบนใบหน้า
- ช่วยรักษาสิวอุดตันสิวอักเสบและหลุมสิวได้เป็นอย่างดี
- เห็นผลอย่างรวดเร็วและชัดเจนกว่าการทาครีมบำรุงหลายเท่า
- ช่วยรักษาความผิดปกติของเส้นเลือดบนใบหน้าได้
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูอิ่มฟู เนียนเด้ง
- ช่วยลดริ้วรอยหรือรอยตีนกาตื้นๆให้ดูจางลง
- ช่วยทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์แบบธรรมชาติ
ข้อเสียของการทำเลเซอร์หน้าใส
- สำหรับเลเซอร์บางรุ่นอาจทำให้ผิวบางขึ้นง่าย
- หลังการทำเลเซอร์บางรุ่นอาจทำให้ผิวตกสเก็ดได้
- บนใบหน้าอาจมีอาการผิวแดงแต่จะค่อยๆหายไปใน1-2 วัน
- อาจเกิดอาการแสบร้อนหรือ บวม ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนและเลเซอร์ที่ใช้
- ค่าใช้จ่ายในการทำแต่ละครั้งค่อนข้างสูง
วิธีการเลือกคลินิกทำเลเซอร์หน้าใส ควรเช็คอะไรบ้าง
- คลินิกต้องมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์
- คลินิกต้องสามารถไว้วางใจได้และมีความปลอดภัยสูง
- เจ้าหน้าที่ต้องพร้อมให้คำปรึกษาแบะตอบคำถามแบบตรงไปตรงมา
- เครื่องเลเซอร์ต้องทันสมัย และอยู่ในสภาพที่สะอาดพร้อมให้บริการอยู่เสมอ
- คลินิกต้องทันสมัยและสามารถติดตามผลงานได้ทุกช่องทาง
- เป็นคลินิกที่ติดต่อได้ง่าย และมีการติดตามผล
ข้อควรปฏิบัติก่อนและหลังทำเลเซอร์หน้าใส
การเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์หน้าใส
- ห้ามโกนหรือแว็กซ์ขนหน้าโดยเด็ดขาด
- ถ้ามีการแพ้ยาหรือมีประวัติประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อน
- งดยากลุ่มพาราเซตามอลหรือยาแก้ปวดทุกชนิด
- งดขัดผิวหน้าประมาณ 1 อาทิตย์
- งดล้างหน้าโดยใช้ครีมที่มีสารเคมีต่างๆเพราะอาจเกิดการระคายเคืองได้
การดูแลตัวเองหลังทำเลเซอร์หน้าใส
- หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด 15 วัน
- งดการโดนน้ำบนใบหน้า 1 วัน
- งดมาร์สหน้าหลังเลเซอร์
- ถ้ารู้สึกไม่สบายหน้าให้ใช้การประคบเย็นช่วยได้
- ควรทายาตามที่แพทย์แนะนำ
- งดแต่งหน้าจัด 1 สัปดาห์ (สำหรับ dual yellow laser สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ)
- หากมีสเก็ดแผลบนใบหน้าห้ามแกะหรือเกาเด็ดขาด
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวหน้า
เลเซอร์หน้าใสเจ็บไหม?
การทำเลเซอร์หน้าใสโดยขณะที่มีการทำเลเซอร์ด้วย dual yellow laser จะไม่มีความรู้สึกเจ็บแต่อย่าใด ให้ความรู้สึกแค่มีเข็มมาแตะที่หน้าเพียงเบาๆเท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องใช้ยาชาเหมือเลเซอร์รุ่นอื่น
เลเซอร์หน้าใสต้องทำกี่ครั้งถึงเห็นผล?
เพื่อให้ดีต่อสุขภาพผิวหน้าควรทำอย่างน้อยทุกๆ 3-4 สัปดาห์ต่อ/ครั้ง เพื่อช่วยกระตุ้ยเซลล์ผิวหนังให้มีการผลัดเซลล์ที่ดีขึ้น และเป็นการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวหน้าใสขึ้นทุกคร้งหลังการรักษา
ทำเลเซอร์หน้าใสอยู่ถาวรหรือไม่?
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีหลังเข้ารับบริการทำเลเซอร์หน้าใสแล้วควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การเลเซอร์หน้าใสไม่ได้ทำให้อยู่ถาวรแต่เป็นการปรับสภาพผิวที่ใช้กระตุ้นให้มีการสร้างผิวใหม่ที่เรียบเนียนและกระตุ้นให้หลุมสิวตื้นขึ้น และปรับให้สถาพผิวดีขึ้นทุกๆครั้งหลังการทำเลเซอร์