จบปัญหาผิวไม่เรียบเนียน ด้วยเลเซอร์หลุมสิว

ผิวหน้าไม่เรียบเนียนเพราะปัญหาหลุมสิว ความกลุ้มใจในคนทุกเพศทุกวัย แม้จะรักษาสิวแล้วแต่ก็ทิ้งร่องรอยไว้ให้ต้องกังวลต่อ ปัญหานี้จบได้ด้วยเลเซอร์รักษาหลุมสิว นวัตกรรมความงามที่นิยมในปัจจุบัน แต่เลเซอร์รักษาหลุมสิวจะให้ผลที่ดีจริงหรือไม่ ทำแล้วหลุมสิวหายถาวรเลยไหม หรือมีข้อควรรู้อะไรบ้างก่อนทำตามมาอ่านกันเลย

ข้อควรรู้ก่อนเลเซอร์รักษาหลุมสิว

ใบหน้าไม่เรียบเนียน มีหลุมสิว

สาเหตุของการเกิดหลุมสิว

หลุมสิวมีสาเหตุการเกิดหลายแบบ โดยปกติมาจากการที่มีปัญหาสิวขึ้นบนใบหน้ามาก่อน เมื่อสิวยุบลงผิวจะยุบลงตามไปด้วยทำให้เกิดเป็นรอยสิวที่ต้องใช้เวลาให้ร่างกายซ่อมแซมสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ หลุมสิวจึงหายได้เองใน 1 – 2 สัปดาห์ แต่ในบางครั้งการอักเสบของสิวที่รุนแรงยังทำให้เกิดหลุมสิวแบบถาวรได้ ในกรณีนี้ควรทำการรักษา

หลุมสิวมีลักษณะอย่างไรบ้าง?

หลุมสิวเป็นหลุมขนาดเล็กที่อยู่บนผิว ผิวบริเวณนั้นจะมีลักษณะขรุขระ ไม่เรียบเนียน หรือเนื้อบุ๋มลงไป ทำให้มองเห็นได้อย่างชัดเจน หลุมสิวสามารถเกิดขึ้นเพียงจุดเดี่ยวๆ หรืออาจขึ้นกระจายทั่วใบหน้าก็ได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะของสิว

สิวแบบไหนที่ทำให้เกิดหลุมสิวได้บ้าง?

  • สิวอักเสบรุนแรง
  • สิวหัวหนอง
  • สิวหัวช้าง
  • สิวที่เกิดจากแบคทีเรีย

หลุมสิวแต่ละชนิด

หลุมสิวมีกี่ประเภท?

หลุมสิวเกิดขึ้นได้จากสิวหลายแบบ ทำให้มีลักษณะของหลุมสิวที่เกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ ทั่วไปสามารถพบได้ 3 แบบดังนี้

  • หลุมสิว Ice pick scar
    ลักษณะหลุมสิวมีความลึกแต่แคบ ขนาดความกว้างของปากหลุมประมาณ 2 มม. เกิดจากการบีบสิว เป็นหลุมสิวที่มีอาการรุนแรงสุดเนื่องจากทำให้เกิดร่องลึก อาศัยเวลานานกว่าหลุมจะตื้นลง
  • หลุมสิวแบบ Box scar
    หลุมสิวที่กระจายตัวเหมือนบ่อ ขอบหลุมค่อนข้างกว้าง พบบ่อยในคนที่มีสิวอักเสบที่ฝังตัวลึก หรือเป็นอีสุกอีใส มีความรุนแรงของอาการในระดับปานกลาง
  • หลุมสิว Rolling scar
    มีลักษณะเป็นหลุมตื้นๆ กินช่วงแค่ผิวด้านบน สามารถรักษาได้ง่ายที่สุดเพราะอาการไม่รุนแรง พบได้โดยทั่วไป

การรักษาหลุมสิวมีวิธีไหนบ้าง?

ปัจจุบันการรักษาหลุมสิวสามารถเลือกทำได้ด้วยทั้งวิธีรักษาด้วยยาหรือผลิตภัณฑ์ลดหลุมสิว รวมไปถึงการใช้นวัตกรรมทางการแพทย์หรือเทคโนโลยีเข้ามาช่วย แต่ละวิธีมีจุดเด่นต่างกันดังนี้

  • ผลิตภัณฑ์รักษาหลุมสิว
    ผลิตภัณฑ์ประเภททาเพื่อรักษาหลุมสิวทั้งยาและสกินแคร์ที่มีกรดวิตามิน A, AHA, BHA และ PHA เป็นกลุ่มสารสกัดที่ช่วยเร่งให้เกิดการผลัดเซลล์ได้ดี รวมไปถึงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน จึงช่วยลดหลุมสิวให้ค่อยๆ ตื้นลงได้ แต่ใช้เวลาค่อนข้างนานตามระดับความรุนแรงของอาการ
  • ยาทานรักษาหลุมสิว
    สำหรับหลุมสิวที่มีอาการไม่รุนแรงมากสามารถทานยาที่มีการสกัดจากวิตามิน A วิตามิน B5 หรือ Zinc เพื่อช่วยรักษาสมดุลความมันของผิวได้ จะให้ดีควรอยู่ใต้การแนะนำของผู้เชี่ยวชาญเพื่อได้ตัวยาที่เหมาะกับตัวเอง และผลข้างเคียงต่ำที่สุด
  • ฉีดฟิลเลอร์ลดหลุมสิว
    ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid ที่นำมาใช้ฉีดลดร่องลึกหรือบริเวณที่เนื้อเยื่อแหว่ง ขาดความสมดุล ในการฉีดบริเวณที่เป็นหลุมสิวจะช่วยเข้าไปเติมให้หลุมสิวตื้นลงได้ แต่ต้องมีการดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากต้องทำการตัดพังผืดใต้ผิวออกก่อนฉีด และเป็้นวิธีแก้เพียงชั่วคราว เพราะฟิลเลอร์จะสลายตัวไปเมื่อหมดอายุใช้งาน
  • เลเซอร์รักษาหลุมสิว
    เลเซอร์หลุมสิวเป็นการนำนวัตกรรมลำแสงเลเซอร์มาใช้ยิงพลังงานลงไปที่ชั้นผิวเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หลุมสิวจึงตื้น แคบลงทำให้ผิวดูเรียบเนียน เป็นการรักษาที่ให้ผลลัพธ์ถาวรเนื่องจากไปปรับเปลี่ยนโครงสร้างผิวโดยตรงในลักษณะที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่เห็นผลลัพธ์ไวขึ้น
  • รักษาหลุมสิวด้วยคลื่นวิทยุ
    วิธีนี้จะคล้ายกันกับรักษาด้วยเลเซอร์แต่เปลี่ยนเป็นพลังงานจากคลื่นวิทยุ Radiofrequency หรือ RF แทน ตัวเครื่องจะปล่อยพลังงานลงไปลึกถึงชั้นผิวแล้วกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับเลเซอร์ แต่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า และอาจเกิดผลข้างเคียงเป็นอาการบวมหรือแดงที่นานกว่า

เลือกวิธีรักษาด้วยเลเซอร์หลุมสิวดีไหม?

สำหรับคนที่มีหลุมสิวและต้องการการรักษาที่ได้ประสิทธิภาพ ใช้เวลาน้อยแต่เห็นผลลัพธ์ดีกับหลุมสิวทุกประเภท การทำเลเซอร์รักษาหลุมสิวเป็นวิธีที่ตอบโจทย์ สามารถปรับสภาผิวให้เรียบเนียนขึ้นได้ ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ ปัจจุบันมีนวัตกรรมเลเซอร์ให้เลือกหลายแบบตามงบประมาณและความต้องการเฉพาะบุคคล

เลเซอร์หลุมสิวช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

เลเซอร์หลุมสิวไม่ได้ให้ผลลัพธ์ด้านการรักษาหลุมสิวเพียงอย่างเดียวแต่ยังช่วยปรับสภาพผิวโดยรวมให้แข็งแรงขึ้นจากการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ผลลัพธ์หลังทำเลเซอร์หลุมสิวมีดังนี้

  • รักษารูขุมขนกว้างให้กระชับขึ้น
  • ปรับผิวที่ไม่สม่ำเสมอให้ดูเรียบเนียนขึ้น
  • ลดริ้วรอยเล็กๆ
  • ลดเลือนแผลเป็น
  • รักษารอยดำ รอยแดง ฝ้า และกระให้ดูจางลง
  • ปรับสีผิวให้เท่ากัน

ข้อดีของการทำเลเซอร์หลุมสิว

  • ลดระยะเวลาในการรักษาหลุมสิวให้เห็นผลไวขึ้น
  • รูขุมขนดูกระชับขึ้น ใบหน้าเรียบเนียน
  • ผลข้างเคียงต่ำ ไม่ทำให้เกิดอันตรายกับร่างกาย
  • ช่วยผลัดเซลล์ผิวให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่
  • ผิวหน้าโดยรวมดูกระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอ และสุขภาพผิวดีขึ้น

ประเภทของเลเซอร์หลุมสิว

เลเซอร์รักษาหลุมสิวมีหลากหลายรูปแบบตามนวัตกรรมเลเซอร์ที่ต่างกัน ปัจจุบันนิยมใช้อยู่ทั้งหมด 4 แบบ

  • IPL (Intense Pulsed Light)
    พลังงานจากลำแสงเข้มข้น สามารถเลือกความยาวคลื่นได้หลากหลาย เหมาะกับรักษาหลุมสิวตื้นๆ ประเภท Rolling scar และต้องอาศัยความต่อเนื่องมากกว่า 4 ครั้งขึ้นไปเพื่อให้ได้ผลลัพธ์
  • Q-Switched
    เลเซอร์ที่ช่วยรักษาฝ้า กระ และรอยดำ รอยสิวได้ดี แต่สำหรับหลุมสิวเลเซอร์อาจไม่ให้ผลลัพธ์ได้ชัดเท่าเลเซอร์ประเภทอื่น จะเหมาะกับคนที่ต้องการดูแลสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้นมากกว่า
  • Pico Laser
    เลเซอร์ที่มีการปล่อยแสงพลังงานสูงเพื่อรักษาหลุมสิว เทคโนโลยี Pico ผลิตขึ้นมาเพื่อดูแลหลุมสิวได้ดีเพราะใช้เวลาสั้นแต่สามารถกำจัดเม็ดสีที่ผิดปกติได้ดี เหมาะกับหลุมสิวระดับเบาและปานกลางอย่าง Rolling scar และ Box scar
  • Picoway
    Picoway Laser เป็นตัวเลือกเลเซอร์ที่ดีที่สุดในการรักษาหลุมสิวในปัจจุบัน เพราะถูกออกแบบมาเพื่อรักษาหลุมสิวโดยเฉพาะ เห็นผลกับหลุมสิวทุกแบบ ด้วยการปล่อยพลังงาน Picosecond 1 ในล้านล้านวินาที จึงกระตุ้นคอลลาเจนรวมทั้งอีลาสตินได้ดี เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ

การเลเซอร์รักษาหลุมสิว

เลเซอร์รักษาหลุมสิวเหมาะกับใคร?

เลเซอร์รักษาหลุมสิวสามารถทำได้ทุกคน โดยเฉพาะคนที่อยากได้วิธีรักษาหลุมสิวอย่างมีประสิทธิภาพ หรือมีความต้องการดังนี้

  • คนที่ต้องการรักษาหลุมสิวให้หายไว
  • คนที่มีหลุมสิวระดับรุนแรง รักษาด้วยวิธีอื่นยาก
  • คนที่อยากให้สภาพผิวแข็งแรงขึ้น
  • คนที่อยากปรับสภาพผิวให้มีความเรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอ
  • คนที่อยากรักษารูขุมขนกว้างไปพร้อมกับรักษาหลุมสิว
  • คนที่อยากรักษาหลุมสิวในระยะยาวด้วยวิธีที่ปลอดภัย

เลเซอร์รักษาหลุมสิวอันตรายไหม?

เลเซอร์หลุมสิวเป็นนวัตกรรมที่ผ่านการรับรองและใช้งานการในระดับสากล ด้วยตัวเครื่องที่มีการปล่อยค่าพลังงานที่เสถียร เมื่อดูแลด้วยผู้เชี่ยวชาญก็จะได้รับค่าพลังงานหรือความยาวคลื่นที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล และยังมีผลข้างเคียงต่ำ มีเพียงรอยแดงหลังทำซึ่งจะหายเองใน 3 – 7 วัน

หลังทำเลเซอร์หลุมสิว จะกลับมาเป็นอีกไหม?

เมื่อทำเลเซอร์รักษาหลุมสิวแล้วเลเซอร์จะทำการเติมเต็มผิวและสร้างคอลลาเจนในผิวขึ้นมาใหม่ ทำให้หลุมสิวตื้นลงและหายไปในที่สุด แต่ไม่สามารถป้องกันหลุมสิวที่เกิดขึ้นใหม่ได้ หากไม่อยากให้มีหลุมสิวอีกจึงต้องดูแลรักษาผิวหน้าให้สะอาดเพื่อลดโอกาสเกิดสิว

ทำเลเซอร์หลุมสิวกี่ทีถึงเห็นผล?

การทำเลเซอร์รักษาหลุมสิวในแต่ละคนจะเห็นผลไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของหลุมสิวและประเภทเลเซอร์ที่ใช้ โดยทั่วไปควรทำอย่างต่อเนื่อง เว้นระยะห่างให้เหมาะสม เมื่อทำไปอย่างน้อย 1 – 3 เดือน หลุมสิวจะตื้นลง เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

เลเซอร์หลุมสิวรักษารูขุมขนกว้างได้ไหม?

ในการยิงเลเซอร์เพื่อรักษาหลุมสิวจะมีหลักการส่งพลังงานเข้าไปเพื่อกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ ผลลัพธ์ที่ได้จึงช่วยลดความกว้างของรูขุมขนไปได้ในคราวเดียวกัน ภาพรวมใบหน้ามีความเรียบเนียน กระชับขึ้น

ความรู้สึกระหว่างทำเลเซอร์รักษาหลุมสิว

หากกังวลเรื่องความเจ็บระหว่างทำเลเซอร์รักษาหลุมสิว เลือกพลังงานเลเซอร์ที่อ่อนโยนอย่าง Picoway จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บลงได้ เพราะมีความอ่อนโยน แทบไม่รู้สึกเจ็บระหว่างทำ หลังทำจะมีเพียงอาการแดงเล็กน้อยหากดูแลให้ดีก็จะหายเร็ว

เลเซอร์รักษาหลุมสิว ราคาเท่าไหร่ แพงไหม?

เลเซอร์รักษาหลุมสิว Picoway จะเริ่มต้นที่ประมาณ 3,500 บาท/ครั้ง หากเลือกทำกับคลินิกที่บริการดีหลายๆ แห่งมักมีราคาเป็นคอร์สให้ลูกค้าเลือกทำได้แบบคุ้มค่าขึ้น

ก่อนทำเลเซอร์รักษาหลุมสิวต้องเตรียมตัวอย่างไร?

เนื่องจากการทำเลเซอร์รักษาหลุมสิวจะมีการใช้ความร้อน กระตุ้นให้ผิวผลัดเซลล์ ก่อนทำแนะนำให้หลีกเลี่ยงและปฏิบัติดังนี้

  • เลือกคลินิกเลเซอร์ที่มีชื่อเสียงเฉพาะทาง
  • งดใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหรือสกินแคร์ที่มี AHA และประเภท Whitening
  • งดใช้ยาละลายหัวสิวก่อนทำเลเซอร์
  • หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัด รวมทั้งกิจกรรมกลางแจ้ง
  • แจ้งประวัติการรักษาโรค โรคประจำตัว และประวัติแพ้ยา-อาหารให้ทางคลินิกทราบก่อนทำ

ขั้นตอนเลเซอร์หลุมสิวเป็นอย่างไร?

แต่ละคลินิกอาจมีขั้นตอนการทำเลเซอร์รักษาหลุมสิวที่ต่างกัน แต่ขั้นตอนหลักๆ จะมีดังต่อไปนี้

  1. เจ้าหน้าที่ของทางคลินิกทำความสะอาดผิวหน้าให้ลูกค้า
  2. ทายาชาให้ก่อนทำ 30 – 60 นาที
  3. แพทย์ผิวหนังเริ่มทำ Picoway ทั่วทั้งใบหน้า
  4. ประคบเย็นหลังทำ

หลังทำเลเซอร์หลุมสิวควรดูแลอย่างไร?

เพื่อให้อาการบวม แดง หรือระคายเคืองจากความร้อนหลังทำเลเซอร์รักษาหลุมสิวหายไว ผู้ทำควรดูแลผิวหลังทำโดยปฏิบัติตามข้อแนะนำดังนี้

  • งดแต่งหน้าในช่วงแรกหลังทำจนกว่าอาการแดงหรือคันจะหายไป
  • งดการใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้าที่มีส่วนผสมของสารเคมี น้ำหอม และแอลกอฮอล์
  • ควรใช้ครีมกันแดดเพื่อป้องกันความร้อนจากแสงอาทิตย์
  • หลีกเลี่ยงความร้อนและแสงแดด

ดูแลตัวเองยังไงไม่ให้เป็นหลุมสิวอีก?

การเลี่ยงหลุมสิวที่ดีที่สุดคือการป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิวขึ้นมาตั้งแต่แรก เพราะแม้ว่าทำเลเซอร์รักษาแล้วหลุมสิวก็กลับมาเป็นได้อีก แนะนำให้ดูแลป้องกันดังนี้

  • งดการบีบสิว แกะสิว หรือขัดหน้าแรงๆ เมื่อเป็นสิว เนื่องจากเสี่ยงทำให้ชั้นผิวถูกทำลายลึกขึ้น
  • งดแกะสะเก็ดหลังรักษาสิวหาย เพราะอาจทำให้เกิดแผลเป็นได้
  • รีบรักษาสิวตั้งแต่ตอนที่เริ่มเป็นใหม่ๆ
  • รักษาความสะอาดและความมันบนผิวหน้าเพื่อลดโอกาสเกิดสิว

การเลือกคลินิกทำเลเซอร์รักษาหลุมสิว

สิ่งสำคัญที่สุดในการทำเลเซอร์รักษาหลุมสิวก็หนีไม่พ้นความปลอดภัย การเลือกคลินิกต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อป้องกันการผิดพลาดหรือมีคนคอยรับผิดชอบได้ คลินิกที่ดีควรมีลักษณะดังต่อไปนี้

  • คลินิกต้องมีใบอนุญาตให้เปิดบริการที่ถูกต้องตามกฎหมาย
  • คลินิกมีชื่อเสียงด้านบริการเลเซอร์โดยตรง มีผู้เชี่ยวชาญดูแล
  • คลินิกมีการให้ข้อมูลอย่างครบถ้วน มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง
  • คลินิกรักษาความสะอาด ความปลอดภัยอย่างดี มีการตรวจเช็กเครื่องเลเซอร์เป็นประจำ
  • คลินิกยินดีให้คำแนะนำและติดตามอาการให้กับคนไข้หลังทำ
  • ผู้ที่ทำการเลเซอร์ให้ต้องเป็นแพทย์และมีความชำนาญในการใช้เครื่องเลเซอร์

สรุป

ปัญหาหลุมสิวที่รักษาไม่หายสักทีหากเลือกวิธีที่แก้ไขได้ตรงจุดอย่างการทำเลเซอร์หลุมสิวก็จะตอบโจทย์ได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับคนที่เป็นหลุมสิวขั้นรุนแรง ต้องการรักษาแบบเร่งด่วน หรือคนที่อยากให้ผิวดูเรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอขึ้น หรืออยากกระชับรูขุมขน ก็สามารถเลือกทำวิธีนี้ได้เป็นอย่างดี