การทำเลเซอร์เพื่อลดเลือนรอยดำ รอยแดงที่ได้ผลลัพธ์ดีมีเลเซอร์แบบไหนบ้าง? เรียกว่าอะไร? เพราะเลเซอร์ในท้องตลาดเยอะไปหมด บางครั้งเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเลเซอร์ที่เราทำไปนั้นเรียกว่าอะไร เพื่อให้การรับบริการของเราเป็นไปอย่างโปร่งใส ไม่โดนเอาเปรียบจากคลินิกความงาม เราควรมีความรู้เกี่ยวกับเลเซอร์ไว้บ้างค่ะ อย่างน้อยเวลาคลินิกหรือคุณหมอแนะนำอะไรมา เราจะได้ถามต่อและมีพื้นความรู้ในการคุยได้
รอยดำ รอยแดง เกิดจากอะไร?
รอยแดง เกิดจากการซ่อมแซมตัวเองของผิวโดยเป็นการรวมตัวกันของเส้นเลือดฝอยรอบๆบริเวณสิวอักเสบทำให้ผิวโดยรอบมีรอยแดงสีชมพูดอ่อนจนถึงสีแดงเข้ม ส่วนมากรอยแดงมักเกิดบริเวณที่สิวยุบลงเองโดยไม่ได้ไปแกะหรือบีบหนองออก สามารถเกิดสิวซ้ำบริเวณนั้นได้อีกรอบ กรณีที่คนไข้มีสิวอักเสบเยอะๆแล้วไม่ได้รับการรักษา รอยแดงบริเวณรอบๆสิวก็จะเปลี่ยนเป็นรอยดำได้เช่นกัน
ถ้าไม่เลเซอร์สามารถหายเองได้ไหม?
ส่วนรอยดำมักเกิดหลังการบีบแกะสิวหนอง สิวมีหัว สิวอักเสบ ทำให้ผิวชั้นนอกถลอก ร่างกายจึงสั่งให้ซ่อมแซมผิวใหม่ขึ้นมา ผิวสร้างใหม่เป็นสีน้ำตาลอ่อนค่อยๆไล่จนเป็นสีน้ำตาลเข้ม สำหรับแนวทางการรักษาทั้งรอยแดงและรอยดำสิว จะต้องรักษาตั้งแต่ต้นตอการเกิด นั่นคือ การรักษาสิวอุดตันไม่ให้สิวนั้นประทุออกมา คือรีบกดออกตั้งแต่ยังไม่เป็นหนองเป็นหัว โดยการกดจำเป็นต้องเลเซอร์เปิดผิวแล้วใช้เข็มสะกิดหัวออกมาจะทำให้เกิดรอยดำน้อยกว่าการกดเอง เพราะการกดเองทำให้ผิวหนังถลอกกว่าการทำเลเซอร์แล้วสะกิดสิวออกนั่นเอง แต่หากมีทั้งสิวอักเสบ สิวอุดตันและรอยเดิม สามารถรักษาสิวเกิดใหม่ ควบคู่กับการรักษารอยได้ หลักๆจำเป็นต้องรักษาสิวให้หายก่อนค่อยกำจัดรอย เพราะมิใช่นั้นการรักษาจะไม่จบสิ้น
รอยดำและรอยแดง สามารถจางลงหายเองได้เมื่อผ่านระยะเวลา เซลล์ผิวจะผลัดเองทุกๆ 4-6 สัปดาห์ ใช้เวลาค่อนข้างนานกว่ารอยดำ รอยแดงจะจางลง บางเคสใช้เวลานานถึง 1 ปีเลยทีเดียว ร่วมกับการใช้ยาเร่งการผลัดเซลล์ผิวแล้ว สำหรับการใช้ยาควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังเพราะหากใช้ยาผิดก็อาจเกิดปัญหาสิวอุดตันได้อีก
เลเซอร์ที่นิยมใช้ในการลดเลือนเม็ดสี ลบรอยแดงสิว ลบรอยดำจากสิว มีอะไรบ้าง?
การทำเลเซอร์หน้าใส ที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน คุ้นหูกันได้แก่ IPL มีแบบทั้งทำเองที่บ้านและทำที่คลินิก ความแตกต่างคือระดับพลังงานที่แตกต่างกัน (IPL ไม่ใช้เลเซอร์แต่เป็นพลังงานแสง) , Q-Switch เป็นเลเซอร์ขึ้นชื่อเรื่องการกำจัดเม็ดสีรุ่นแรกๆ , Picosecond เป็นเลเซอร์ที่แทนที่ Nanosecond อย่าง Q-Switch ให้ผลลัพธ์เรื่องเม็ดสีผิวได้ดีกว่าเจ็บน้อยกว่า และ Dual Yellow เลเซอร์รอยแดงรอยดำที่อ่อนโยนต่อผิวไม่ทำให้ผิวตกสะเก็ด แต่ละแบบควรเลือกแบบไหนดี ? อ่านได้หัวข้อถัดไปเลยค่ะ
Dual Yellow Laser คืออะไร?
เลเซอร์แสงสีเหลืองความยาว 578 นาโนเมตรและแสงสีเขียวความยาว 511 นาโนเมตรโดยทำงานร่วมกันสองสี โดยสีเหลืองจะช่วยลดเลือนรอยแดงจากเส้นเลือดฝอย ส่วนแสงสีเขียวจะช่วยลดเลือนเม็ดสี กระตุ้นคอลลาเจน ลดความอักเสบของสิวอักเสบ
Dual Yellow Laser VS IPL อันไหนดีกว่ากัน?
IPL เป็นการใช้ลำแสงรักษาปัญหาผิวและกำจัดขน ระดับพลังงานไม่สูงและเป็นลำแสงกว้าง จะไม่สามารถทำการรักษารอยแดง รอยดำ เฉพาะจุดได้ ต้องทำหลายครั้งเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ สามารถซื้อมาทำเองที่บ้านหรือทำที่คลินิกก็ได้ แตกต่างกันที่ระดังพลังงาน ส่วนมากแล้ว IPL ต้องทำหลายๆครั้งมากกว่า12 ครั้งขึ้นไปจึงเห็นผล ไม่เหมาะสำหรับสาวๆที่เวลาน้อยและไม่เหมาะกับผิวขาว ข้อจำกัดของ IPL คือต้องทำถี่และทำบ่อยราคาถูกมากหลักพันต้นๆเท่านั้นเอง หากเทียบกับ Dual Yellow แล้ว Dual Yellow เห็นผลดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด สำหรับดูโอ้เยลโล่วสามารถทำต่อเนื่องกัน 3-5 ครั้งก็ลดเลือนรอยแดง รอยดำได้มากกว่า 90% สามารถเว้นการทำห่างกัน 4-5 สัปดาห์
Dual Yellow Laser VS Q-Switch เลือกแบบไหนดี?
Q-Switch ต้องแปะยาชาก่อนทำ ขณะทำเลเซอร์จะรู้สึกร้อนๆและเหมือนโดยหนังยางดีดที่หน้าเบาๆ หลังทำผิวจะแดงลอกและตกสะเก็ด ในขณะที่หลังทำ Dual Yellow ผิวจะอุ่นๆแดงๆเล็กน้อยและหายไป โดยไม่ทำให้ผิวตกสะเก็ด ส่วนตัวยังมองว่า Q-Switch แก้ไขรอยแดงได้เฉพาะจุดดีกว่า ความรู้สึกเมื่อผิวตกสะเก็ดจะเผยผิวได้ใสมากกว่า ทั้งนี้วัดจากความรู้สึกส่วนตัว สำหรับคนไข้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้นใบหน้าต้องออกไปพบปะผู้คน และกลัวเจ็บขณะทำเลเซอร์ แนะนำทำ Dual Yellow จะดีกว่า
Dual Yellow Laser VS Picosecond (Picoway) แบบไหนลดเลือนรอยดำได้ดีกว่ากัน?
Dual Yellow สามารถแก้ไขปัญหาผิวหน้าไม่สม่ำเสมอ รอยดำเล็กรวมถึงรอยแดงจากเส้นเลือดฝอยได้ดีโดยไม่ทำให้ผิวลอกตกสะเก็ด ส่วนรอยดำฝังลึกเช่นกระ ฝ้า แนะนำเลเซอร์กลุ่ม Picosecond จะได้ผลดีกว่ารวมถึงเจ็บกว่าด้วย ขณะทำและผิวหนังจะลอกตกสะเก็ดหลังเลเซอร์ ในขณะที่ Dual Yellow เป็นเลเซอร์ที่นุ่มนวลมากไม่ต้องแปะยาชาและไม่มีปัญหาผิวลอกตกสะเก็ดหลังทำ
Dual Yellow Laser สามารถแก้ไขปัญหาผิวแบบไหนได้บ้าง?
- สามารถแก้ไขสีผิวหน้าไม่สม่ำเสมอ
- สามารถแก้ไขรอยดำที่เกิดจากสิว
- สามารถลดการอักเสบของสิวได้
- สามารถแก้ไขรอยแดงที่เกิดจากเส้นเลือดฝอย
- สามารถแก้ไขริ้วรอยเล็กๆบริเวณคิ้ว หางตาและร่องแก้มได้
- สามารถแก้ไขติ่งเนื้อไฝได้
Dual Yellow Laser ควรทำต่อเนื่องกี่ครั้งเห็นผล ? ความรู้สึกขณะทำเจ็บไหม? ต้องเว้นห่างกันนานเท่าไหร่?
แม้จะเห็นผลลัพธ์ว่าผิวหน้าสีสม่ำเสมอกัน แต่แนะนำให้ทำต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ครั้งเพื่อให้ผิวหน้ารอยแดง รอยดำต่างๆลดลง 90% ขณะทำจะไม่รู้สึกเจ็บ แต่รู้สึกอุ่นขณะทำเท่านั้นเอง ในการทำแต่ละครั้งสามารถเว้นห่างกันได้ 4-6 สัปดาห์
Dual Yellow Laser ทำให้เกิดรอยไหม้ หรือผิวตกสะเก็ดหลังการทำเลเซอร์หรือไม่?
Dual Yellow เป็นเลเซอร์ที่อ่อนโยนไม่ทำให้ผิวตกสะเก็ดหรือมีรอยไหม้หลังการทำ อาจมีรอยแดงเล็กน้อยหลังการทำ ซึ่งจะจางไปเองภายใน 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น
หลังทำ Dual Yellow Laser ไปแล้วสิวจะขึ้นน้อยลงจริงมั้ย?
Dual Yellow ช่วยลดอาการอักเสบของสิวได้ กระตุ้นคอลลาเจนในผิวทำให้ผิวแข็งแรงโอกาสการเกิดสิวก็จะน้อยลงเมื่อผิวแข็งแรง แต่ไม่มีผลโดยตรงในการทำให้เกิดสิวน้อยลง สำหรับคนไข้ที่มีสิวเยอะ คุณหมอจะแนะนำให้ฉายแสง LED เพื่อฆ่าเชื้อสิวลดการเกิดใหม่ของสิวได้โดยตรง
เป็นสิวอักเสบสามารถเลเซอร์ Dual Yellow Laser ได้มั้ย
หลายๆเลเซอร์ลดรอยดำไม่สามารถทำได้หากมีสิวอักเสบ แต่ Dual Yellow สามารถทำได้เลย และยังมีส่วนช่วยลดการอักเสบของสิว รวมถึงลดการเกิดใหม่ของสิว กระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวไปพร้อมๆกันด้วย
เลเซอร์ Dual Yellow บ่อยๆทำให้ผิวบางลงมั้ย?
การทำเลเซอร์ควรเว้นห่างกันอย่างน้อย 4 สัปดาห์ ตามวงจรการผลัดของเซลล์ผิว ดังนั้นการทำเลเซอร์ไม่ทำให้ผิวบางอย่างแน่นอนค่ะ รวมถึง Dual Yellow เป็นเลเซอร์ที่เสถียรสูงมากไม่ทำร้ายเซลล์ผิวรอบๆ หากเว้นระยะห่างและอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญผิวจะแข็งแรงและใสขึ้นค่ะ
Dual Yellow Laser ราคาเท่าไหร่? + โปรโมชั่น
เริ่มต้นครั้งละ 3,500 บาท สามารถแอดไลน์คลินิกเพื่อตามโปรโมชั่นรายเดือนได้เลยค่ะ